John Obi Mikel
Petr Cech
Branislav Ivanovic
Ashley Cole
เชลซียิงแหลก ชนะแมนซิสตี้ 6-0 ยิงอย่างโหด
Fernando Torres 2013 • Goals & Skills
No one can stop us now! แปลไทย
เพลงประจำสาวกเชลซี
เพลงประจำสาวกเชลซีสิงห์โตคำรามมม
เชลซี! Chelesa
ไม่มีใครสามารถหยุดเราตอนนี้!
เชลซี, เด็กชายสีฟ้า!
เชลซี! เชลซี! เรารักคุณ!
เชลซี! ความรักของเราเป็นความจริง!
ไม่มีใครสามารถหยุดเราตอนนี้!
เชลซี! เราทีม!
เชลซี! เชลซี! เราฝัน!
เชลซี! เราสุดยอด!
ไม่มีใครสามารถหยุดเราตอนนี้!
เด็กผู้ชายจะกลับมาอยู่ในเมือง!
และเรามีความผูกพัน Wembley!
และทุกคนจะแต่งกายในชุดสีฟ้า!
และเรากำลังจะชนะสำหรับคุณ!
และเมื่อเราทำประตู!
เราจะร็อกแอนด์โรล!
เราได้ต่อสู้ทางยาวยาว!
และเราอยู่ที่นี่เพื่อพูด!
และทุกคนร้องเพลง!
เชลซี, เด็กชายสีฟ้า!
เชลซี! เชลซี! เรารักคุณ!
เชลซี! ความรักของเราเป็นความจริง!
ไม่มีใครสามารถหยุดเราตอนนี้!
เชลซี! เราทีม!
เชลซี! เชลซี
เราฝัน!
เชลซี! เราสุดยอด!
ไม่มีใครสามารถหยุดเราตอนนี้!
เราก็จะดีที่สุด!
เราจะชนะส่วนที่เหลือ!
ร่วมกันเราเป็นหนึ่ง!
มองสิ่งที่เราได้ทำ!
ถนนมีความยาวและยาก!
แต่เรามีความแข็งแรงพอ!
พอที่จะเห็นมันผ่าน!
และทำให้ความฝันของเราเป็นจริงขึ้นมา!
และทุกคนร้องเพลง!
เชลซี, เด็กชายสีฟ้า!
เชลซี! เชลซี! เรารักคุณ!
เชลซี! ความรักของเราเป็นความจริง!
ไม่มีใครสามารถหยุดเราตอนนี้!
เชลซี! เราทีม!
เชลซี! เชลซี
เราฝัน!
เชลซี! เราสุดยอด!
ไม่มีใครสามารถหยุดเราตอนนี้!
พูด:
สแตมฟสะพาน Wembely!
ทีละขั้นตอนในความสามัคคี!
มีเครื่องดื่ม! มันถึงเวลาที่งานปาร์ตี้!
เชลซี! เชลซี! คุณเหมือง!
เชลซี! เชลซี!
ไม่มีใครสามารถหยุดเราในขณะนี้!
เชลซี, เด็กชายสีฟ้า!
เชลซี! เชลซี! เรารักคุณ!
เชลซี! ความรักของเราเป็นความจริง!
ไม่มีใครสามารถหยุดเราตอนนี้!
เชลซี! เราทีม!
เชลซี! เชลซี
เราฝัน!
เชลซี! เราสุดยอด!
ไม่มีใครสามารถหยุดเราตอนนี้!
juan Mata ► Frank Lampard Skills
ออชการ์ ดูซ ซังตูซ อิมบออาบา ชูเนียร์
ออสการ์ หรือชื่อเต็มว่า ออสการ์ ดอส ซานโต้ส เอ็มบัวบา จูเนียร์ ซึ่งจะอายุครบ 21 ปีในเดือนก.ย. ถูกเซ็นสัญญาเข้ามาในวันที่ 25 ก.ค. 2012
หรือรู้จักในชื่อ ออสการ์ เกิดวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1991 เป็นนักฟุตบอลชาวบราซิล เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกให้กับสโมสรฟุตบอลเชลซี ในพรีเมียร์ลีก และฟุตบอลทีมชาติบราซิล เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่งกองกลางที่มีความสามารถ ได้รับคำชมเชยในด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยม มีรสนิยมและมีวิสัยทัศน์ เขาเป็นผู้สืบทอดเสื้อหมายเลข 10 จากเปเล่
เขามีส่วนสูง 5 ฟุต 10 นิ้ว (1.79 ซม.) เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกที่สามารถขัยบไปยืนริมเส้นได้ด้วย เขามีชื่อเสียงในเรื่องของการเล่นที่ชอบในการผ่านบอลแล้วไปรับบอลต่อจากเพื่อน ครองบอลได้เหนียวแน่น และสามารถจ่ายบอลได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
เขาได้ลงสนามนัดแรกในเกมเปิดฤดูกาล 2012/13 โดยเป็นตัวสำรองในครึ่งหลังแม้ว่าจะลงซ้อมกับทีมได้แค่ 2 วันเท่านั้น และได้แสดงให้เห็นถึงความเร็วที่ถูกเติมเข้ามาในการเล่นที่เน้นการผ่านบอลที่เฉียบคมของเขา
จากนี้ในอีกหลายสัปดาห์และหลายเดือนข้างหน้าเขาจะค่อยๆปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษ ออสการ์หวังที่จะยึดตำแหน่งตัวจริงในแดนกลางของเชลซี
ก่อนย้ายมาเชลซี
เขาเติบโตจากระบบเยาวชนของสโมสรเซา เปาโล โดยเริ่มถูกเรียกตัวติดทีมชุดใหญ่ในปี 2008 โดยเป็นปีเดียวกับที่เขาพาบราซิล ชุดอายุต่ำกว่า 17 ปีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองได้
ช่วงเวลาของเขาที่ เซา เปาโล จบลงในเดือน ธ.ค. 2010 โดยย้ายมาอยู่กับ อินเตอร์นาซิอองนาล สโมสรซึ่งมีถิ่นฐานที่ ปอร์โต้ อเลเกร ทางตอนใต้ของประเทศ ในปี 2011 และ 2012 พวกเขาคว้าแชมป์ของรัฐได้และและเขายังได้เล่นเป็นตัวสำรองในฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2010 รายการที่ เชลซี จะได้ร่วมแข่งในเดือนธ.ค.นี้ แต่พวกเขาก็พ่ายแบบสุดช็อกต่อ มาเซ็มเบ้ สโมสรจากคองโก
เส้นทางทีมชาติ
ออสการ์ ลงเล่นฟุตบอลระดับชาติมาทุกระดับตั้งแต่รุ่นอายุต่ำกว่า 15 ปี มาจนถึงรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี และลงเล่นให้ทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ในเดือน ก.ย. 2011 โดยเป็นตัวำสรองในเกมที่เสมอกับ อาร์เจนติน่า 0-0
เขาได้ลงสนามแบบเต็มๆครั้งแรกในเกมที่ชนะ เดนมาร์ก ในเดือน พ.ค. และเขาก็ยิงประตูแรกในนามทีมชาติได้ในเดือน มิ.ย. 2012 แม้ว่า บราซิล จะแพ้ต่ออาร์เจนติน่า 4-3 ที่นิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกาก็ตาม โดยลิโอเนล เมสซี่ ยิงแฮตทริกได้ในเกมนั้น
ช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดสำหรับออสการ์ จนถึงตอนนี้คือนัดชิงฟุตบอลโลกรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ที่โคลอมเบีย เมื่อเขายิงแฮตทริกพาทีมเอาชนะโปรตุเกสได้ 3-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติบราซิล ในโอลิมปิกที่ลอนดอน ซึ่งเขาได้เหรียญเงินมาครอง
เพตเตอร์ เช็ก
เพตเตอร์ เช็กย้ายมาร่วมทีมในปี 2004 ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์และสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจทันทีโดยอาศัยความสูง ปฏิกิริยาที่รวดเร็วและความมั่นใจในการออกมาตัดบอล เพียงฤดูกาลแรกที่แสตมฟอร์ดบริดจ์ เช็กสร้างสถิติใหม่ในลีกสูงสุดของอังกฤษด้วยการไม่เสียประตูติดต่อกันถึง 1,024 นาที
เช็กจบฤดูกาลนั้นด้วยการคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกพร้อมสถิติเสียประตูน้อยที่สุด ได้คลีนชีตมากที่สุดในลีกสูงสุดและคว้ารางวัลถุงมือทองคำ 2004/05 ไปครอง
ฤดูกาล 2005/06 เช็กยังรักษาฟอร์มการเล่นไว้ได้เหมือนเคยและช่วยให้เชลซีป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกไว้ได้
เช็กได้รับบาดเจ็บกระโหลกร้าวในเดือนตุลาคมปี 2006 ระหว่างเกมกับเรดดิ้ง ท่ามกลางความกังวลว่าเขาอาจต้องแขวนถุงมือแต่เช็กก็กลับมาช่วยเชลซีคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยในประเทศทั้งเอฟเอคัพและคาร์ลิ่งคัพ
ในฤดูกาล 2007/08 เช็กมีอาการบาดเจ็บทั้งที่น่อง สะโพก และใบหน้าแต่เขาก็กลับมาช่วยให้เราได้เข้าชิงในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก แต่ก็ไม่สามารถหยุดแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในการดวลจุดโทษได้
ฟอร์มของเช็กและเชลซีตกลงไปในฤดูกาล2008/09ทำให้หลุยส์ ฟิลิปเป้ สโคลารี่ถูกปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมและกุส ฮิดดิงค์เข้ามารับหน้าที่แทน เป็นฤดูกาลแรกที่เช็กไม่มีปัญหาบาดเจ็บโดยลงสนามในพรีเมียร์ลีกไปถึง35นัดและทุกนัดในถ้วยยุโรปรวมถึงผลงานที่ยอดเยี่ยมในการพบกับบาเซโลน่า
ฤดูกาล 2009/10 เช็กสร้างชื่อได้อีกครั้งด้วยการพาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพพร้อมกันเป็นครั้งแรกและคว้ารางวัลถุงมือทองคำด้วยคลีนชีต 17 เกมจาก 34 นัดที่ลงสนาม
เช็กสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเอฟเอคัพนัดชิงชนะเลิศด้วยการเซฟมหัศจรรย์หลายครั้งรวมไปถึงฟารเซฟจุดโทษก่อนที่ดีดิเย่ร์ ดร็อกบาจะทำประตูชัยให้เชลซี
สัญญาของเช็กกับเชลซียาวถึงปี 2013 ยังเหลืออีกหลายฤดูกาลที่นายทวารคนนี้จะเฝ้าเสาให้เชลซี
เช็กสร้างชื่อกับสปาร์ต้า ปร้ากด้วยการสร้างสถิติไม่เสียประตูนานเกิน 1000 นาทีซึ่งเป็นสถิติใหม่ในประเทศ
ในทีมชุดอายุไม่เกิน 21 ปีเช็กมีส่วนสำคัญในการพาสาธารณรัฐเช็กคว้าแชมป์ยุโรปปี 2002 ในทีมชุดใหญ่เช็กไม่เสียประตูถึง 5 เกมและพาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในศึกยูโร 2004 และมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนท์
เช็กยังช่วยทีมชาติในฟุตบอลโลก 2006 และยูโร 2008 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสาธารณรัฐเช็กเป็นครั้งที่ 5 ในปี 2010 และรับปลอกแขนกัปตันทีม
บรานิสลาฟ อิวาโนวิช
อิวาโนวิชเซ็นสัญญาร่วมทีมเชลซีในเดือนมกราคมปี 2008 แปดเดือนต่อมาได้ลงเล่นครั้งแรกในเกมเยือนพอร์ตสมัธในศึกคาร์ลิ่งคัพซึ่งเป็นช่วงที่ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่และอเล็กซ์มีปัญหาอาการบาดเจ็บ
อิวาโนวิชเริ่มแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมาให้เห็นด้วยการทำสองประตูที่แอนฟิลด์ระหว่างเกมแชมเปียนส์ลีกกับลิเวอร์พูลในเดือนเมษายนปี 2009 หลังจากนั้นเขาก็ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง ช่วยสกัดและเคลียร์บอลได้หลายต่อหลายครั้ง
อิวาโนวิชพัฒนาฝีเท้าขึ้นเรื่อยๆในการเล่นเต็มฤดูกาลครั้งแรกโดยลงสนามมั้งหมด 26 นัด ส่วนในฤดูกาลต่อมาเขากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญของสโมสร อิวาโนวิชเริ่มต้นฤดูกาล 2009/10 ด้วยการเป็นตัวสำรองของโจเซ่ โบซิงวาในตำแหน่งแบ็คขวา ก่อนที่จะได้เป็นตัวจริงในเดือนตุลาคมเมื่อโบซิงวาได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าต้องพักทั้งฤดูกาล อิวาโนวิชทำผลงานได้ดีทั้งในเกมรุกและเกมรับ การลงสนามให้เชลซีถึง 41 นัดทำให้อิวาโนวิชเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่อาจได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสรแต่สุดท้ายเป็นดีดิเย่ร์ ดร็อกบาที่ได้ไป โดยปีนั้นทั้งคู่มีชื่อติดอยุ่ในทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก
อิวาโนวิชเริ่มชีวิตค้าแข้งกับสโมสรบ้านเกิดในเซอร์เบียอย่างซเรมสกามิโทรวิกาก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมโอเอฟเคเบลเกรดและโลโคโมทิฟมอสโกกลางปี 2006 อิวาโนวิชเล่นให้สโมสรในรัสเซีย 62 นัดก่อนที่จะย้ายมาเชลซีในเดือนมกราคมปี 2008
อิวาโนวิชเป็นดาวเด่นของเซอร์เบียชุดอายุไม่เกิน 21 ปีในศึกชิงแชมป์ยุโรปปี 2006 และ 2007 เขาเป็นกัปตันทีมชุดนั้นก่อนที่จะก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ในเดือนมิถุนายนปี 2006 และเป็นตัวหลักในทีมชาติก่อนที่จะมาเป็นตัวหลักของเชลซี
แอชลีย์ โคล
แอชลี โคลย้ายจากอาร์เซนอลมาเชลซีในปี 2006 ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์รวมกับวิลเลียม กัลลาสและลงเล่นนัดแรกในเกมที่พบกับแวเดอร์เบรเมนในเดือนกันยายนปีเดียวกัน อาการบาดเจ็บทำให้โคลไม่สามารถงัดฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดออกมาได้ในฤดูกาลแรกโดยที่จำนวนนัดที่โคลลงเล่นนั้นใกล้เคียงกับเวย์น บริดจ์ซึ่งเล่นในตำแหน่งเดียวกัน
อาการบาดเจ็บของบริดจ์ในช่วงต้นฤดูกาล 2007/08 ทำให้โคลได้ลงสนามบ่อยขึ้น ประตูแรกของเขากับเชลซีเป็นการยิงเวสต์แฮมในเดือนมีนาคมปี 2008 โคลยังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดรวมถึงการยิงจุดโทษไม่พลาดในช่วงตัดสิน
ในฤดูกาล 2008/09 ภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ ฟิลิปเป้ สโคลารี โคลมีบทบาทในเกมรุกอย่างมาก แต่เมื่อกุส ฮิดดิงค์เข้ามาคุมทีมโคลถูกปรับให้เล่นเกมรับมากขึ้นและช่วยให้เชลซีไม่เสียประตูกลายเกมด้วยกันจนได้รับการโหวตจากผู้เล่นคนอื่นให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมในปีนั้น โคลยังสร้างสถิติส่วนตัวด้วยการลงสนามสูงสุดในฤดูกาลที่ 49 นัด
โคลพาเชลซีคว้าแชมป์เอฟเอคัพด้วยการเอาชนะเอฟเวอตันในปี 2009 และพอร์ตสมัธในปี 2010 ซึ่งโคลเป็นคนเดียวที่คว้าถ้วยเอฟเอคัพได้ถึงหกครั้ง สามครั้งกับอาร์เซนอลและอีกสามครั้งกับเชลซี การคว้าแชมป์เอฟเอคัพในปี 2010 นับเป็นดับเบิ้ลแชมป์ครั้งที่สองโคลเช่นเดียวกับนิโกลาส์ อเนลกาซึ่งเป็นคนแรกที่คว้าดับเบิ้ลแชมป์กับสองสโมสร
ส่วนตัวแล้วโคลมีสถิติการยิงประตูสูงสุดที่ 4 ลูกในฤดูกาลเดียวซึ่งนั่นรวมไปถึงประตูยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของเชลซีในเกมที่พบกับซันเดอร์แลนด์ แผนการเล่นของคาร์โล อันเชลอตติช่วยให้โคลเล่นได้ตามธรรมชาติของเขา เติมเกมรุกทุกเมื่อที่มีโอกาส ช่วยทำประตูและจ่ายบอลให้เพื่อนยิงหลายครั้งในปีที่เชลซีคว้าดับเบิ้ลแชมป์
โคลเป็นผลผลิตจากระบบเยาวชนของอาร์เซนอล ลงเล่นนัดแรกขณะที่อายุ 18 ปีในเกมลีกคัพให้กับอาร์เซนอล โคลถูกคริสตัลพาเลซยืมตัวไปเล่นเป็นเวลา 3 เดือนช่วงท้ายฤดูกาล 1999/00 ก่อนที่จะลงเล่นพรีเมียร์ลีกนัดแรกให้กับอาร์เซนอลในเกมสุดท้ายของฤดูกาล หลังจากที่โคลแย่งตำแหน่งตัวจริงมาจากซิลวินโญ่ได้เขาก็คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 ครั้งและเอฟเอคัพอีก 3 ครั้ง เกมสุดท้ายของโคลกับอาร์เซนอลคือเกมที่แพ้ให้บาร์เซโลนา
โคลเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษชุดอายุไม่เกิน 21 ปีก่อนจะก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ในเกมกับอัลเบเนียเมื่อเดือนมีนาคมปี 2001
โคลลงเล่นให้อังกฤษทั้ง 5 เกมในฟุตบอลโลก 2002 และเป็นหนึ่งในบรรดาผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีในยูโร 2004 ที่โปรตุเกสเป็นเจ้าภาพ โคลยังลงสนามอีก 5 เกมในฟุตบอลโลก 2006 หลังจาก 9 ปีที่เล่นให้ทีมชาติ ในเดือนตุลาคมปี 2010 โคลกลายเป็นแบ็คที่ติดทีมชาติมากที่สุดร่วมที่ 86 นัด
มารินโญ่ ดาวิด ลุยซ์
ดาวิด ลุยซ์ โมเรร่า มารินโญ่ เซ็นสัญญากับเชลซีเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2011 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ตลาดซื้อขายนักเตะเปิดช่วงนั้นหลังจากการย้ายทีมที่ยืดเยื้อจากเบ็นฟิกา แชมป์ลีกของโปรตุเกส
ลุยซ์เซ็นสัญญา 5 ปีครึ่ง กลายเป็นผู้เล่นเชื้อสายแซมบ้าคนที่ 3 ในทีมชุดนี้ ต่อจากผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกันอย่างอเล็กซ์และอดีตเพื่อนร่วมสโมสรเบ็นฟิกาอย่างรามิเรส
ขณะเซ็นสัญญา ดาวิด ลุยซ์มีอายุ 23 ปี เขาเกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน 1987 ในเมืองเซา เปาโล และเริ่มต้นค้าแข้งกับ เอสปอร์เต้ คลับ วิตอเรีย ในเมืองบาเฮีย ซึ่งเขาลงสนามทั้งหมด 47 นัด
ลุยซ์เป็นกองหลังที่มีส่วนสูง 185 เซนติเมตร มีทักษะในการเล่นกับลูกบอลได้ดีเช่นเดียวกับการเล่นเกมรับ เขาถูกยืมตัวไปเล่นให้กับเบ็นฟิกาในเดือนมกราคมปี 2007 ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมแบบถาวรในกลางปีนั้น
ลุยซ์ลงเล่นให้เบ็นฟิกาทั้งหมด 82 นัด โดยพลาดแค่นัดเดียวเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่เบ็นฟิกาคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 5 ปี นอกจากนี้ เว็บไซต์ทางการของยูฟ่ายังโหวตให้ลุยซ์เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของลีกโปรตุเกสในปีนั้นด้วย
ลุยซ์ที่ลงเล่นครั้งแรกให้ทีมชาติบราซิลในเกมทีพบกับอเมริกาเมื่อปีที่แล้วไม่สามารถลงเล่นให้เชลซีในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ หลังจากลงเล่นให้เบ็นฟิกาทั้ง 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่มที่จบด้วยอันดับ 3 ตามหลังชาลเก้และลียง
เขาลงเล่นให้ทีมชาติบราซิลในฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และสามารถลงเล่นได้ทั้งตำแหน่งแบ็คซ้ายและแบ็คขวา
หลังจากเซ็นสัญญากับเชลซี ลุยซ์ตั้งใจจะยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมให้ได้ และสวมเสื้อหมายเลข 4 ต่อจากโคล้ด มาเกเลเล่
chelseafcfootballclub 